ดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทนในการทำสัญญากู้ยืมเงินที่ผู้กู้ได้ตกลงจะให้แก่ผู้ให้กู้เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่ผู้ให้กู้ได้ให้กู้ยืมเงิน ซึ่งดอกเบี้ยนั้น กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นเงินเสมอไป จึงอาจจะเป็นข้าวสาร น้ำตาล เกลือ หรือสิ่งของตามที่คู่สัญญาตกลงกัน แต่โดยทั่วไปแล้วการคิดดอกเบี้ยมักจะเป็นเงินตรา และด้วยเหตุที่ในการทำสัญญากู้ยืมเงินโดยเฉพาะการกู้เงินนอกระบบ ผู้กู้ส่วนใหญ่จะอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบผู้ให้กู้โดยผู้ให้กู้อาจจะกำหนดเงื่อนไขในสัญญากู้อันเป็นการเอาเปรียบผู้กู้ได้ และเนื่องจากผู้กู้มีความต้องการที่จะได้เงินกู้จึงต้องตกอยู่ในสภาวะที่ต้องยอมจำนนต่อเงื่อนไขที่ผู้ให้กูได้กำหนดขึ้นมา โดยเฉพาะในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ให้กู้อาจจะกำหนดไว้เป็นจำนวนที่สูงมาก จนสุดท้ายเกิดกรณีที่ผู้ก็ไม่สามารถที่จะชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ซึ่งอาจจะนำไปสู่การทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรรม ข่มขู่และใช้กำลังบังคับตามมา
ด้วยเหตุผลจากสภาพปัญหาดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐจึงได้มีการออกมาตรการทางกฎหมายเพื่อเป็นการควบคุมดูแลไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน โดยในเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัญญากู้ คือ พระราชบัญญัติห้ามเรียก ดอกเบี้ยเกินอัตรา พุทธศักราช 2475 แต่ต่อมาพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไป โดยมีพระราชบัญญัติ ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ขึ้นมาใช้บังคับแทน
บัญญัติว่า “ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15% ต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ 15% ต่อปี” เป็นกรณีที่กฎหมายได้กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ให้กู้จะเรียกจากผู้กู้ได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ และเป็นช่องทางการแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ชอบ อันทำให้ผู้กู้ได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น ผู้ให้กู้จึงไม่สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัญญากู้ให้สูงเกินกว่าร้อยละ 15% ต่อปี หากกำหนดไว้เกินกว่าร้อยละ 15% ต่อปี เช่น ร้อยละ18% ต่อปี หรือร้อยละ 20% ต่อปี ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับตามนั้น แต่จะไม่สามารถบังคับกันได้เพีงร้อยละ 15% เท่านั้น ผู้ให้กู้จังยังคงมีสิทธิเรียกต้นเงินและดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15% เท่านั้น และต่อมาได้มีพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ขึ้นมาใช้บังคับแทน
มีโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น การที่บุคคลทั่วไปให้กู้ยืมโดยตกลงคิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15% ต่อปี ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กำหนดว่าเป็นความผิดและมีโทษอาญา ดอกเบี้ยจึงเป็นโมฆะไปทั้งหมด
ด้วยประสบการณ์ด้านกฎหมายยาวนานกว่า 12 ปี เราคือผู้เชี่ยวชาญที่คุณวางใจได้ในทุกปัญหาทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ครอบคลุมสัญญาต่างๆ การฟ้องร้อง และการดำเนินคดี หรือกฎหมายแรงงาน ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณหลีกเลี่ยงข้อพิพาท นอกจากนี้ เรายังเชี่ยวชาญใน กฎหมายครอบครัว กฎหมายมรดก กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆ นอกจากนี้ เรายังให้บริการให้คำปรึกษากฎหมายและบริการจดทะเบียนที่ครอบคลุมครบวงจรอีกด้วย
ด้วยประสบการณ์ด้านกฎหมายยาวนานกว่า 12 ปี เราคือผู้เชี่ยวชาญที่คุณวางใจได้ในทุกปัญหาทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ครอบคลุมสัญญาต่างๆ การฟ้องร้อง และการดำเนินคดี หรือกฎหมายแรงงาน ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณหลีกเลี่ยงข้อพิพาท นอกจากนี้ เรายังเชี่ยวชาญใน กฎหมายครอบครัว กฎหมายมรดก กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆ นอกจากนี้ เรายังให้บริการให้คำปรึกษากฎหมายและบริการจดทะเบียนที่ครอบคลุมครบวงจรอีกด้วย